สวพส. ร่วมกับ TEI เปิด ธ.ปุ๋ยชุมชน
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)
และโครงการพัฒนาความร่วมมือไทย-ลาว-เมียนมา
ได้จัดพิธีเปิด "ธนาคารปุ๋ยชุมชน" ภายใต้แนวคิด "ลดเผา ใช้ประโยชน์ หมุนเวียนเศษวัสดุเกษตร"
เพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนและลดปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน
"หมู่บ้านโป่งกลางน้ำ เปิดธนาคารปุ๋ยชุมชน สร้างต้นแบบเกษตรปลอดการเผา สู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม"
(23 ม.ค. 68) ที่หมู่บ้านโป่งกลางน้ำ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) และโครงการพัฒนาความร่วมมือไทย-ลาว-เมียนมา ได้จัดพิธีเปิด "ธนาคารปุ๋ยชุมชน" ภายใต้แนวคิด "ลดเผา ใช้ประโยชน์ หมุนเวียนเศษวัสดุเกษตร" เพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนและลดปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน โดยมี ดร.เบญจมาส โชติทอง ที่ปรึกษาโครงการและผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการและแผนงาน พร้อมด้วยคณะนักวิจัยและผู้แทนภาคีความร่วมมือ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ คุณปกรณ์เกียรติ พิสัยเลิศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวาวี, คุณสุทัศน์ บุญเป็ง, นายภาคภูมิ ดาราพงษ์ นักวิชาการส่งเสริมและพัฒนา, คุณจิรวุฒิ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย, และคุณวัฒนนิกรณ์ เทพโพธา นักวิชาการเกษตรชำนาญการ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (ดอยช้าง)
นายปฤษฎางค์ สามัคคีนิชย์ นายอำเภอแม่สรวย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของธนาคารปุ๋ยชุมชนในการลดการเผาเศษวัสดุการเกษตรหลังเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาหมอกควันในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการทำปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกันระหว่างผู้แทนหน่วยงานและผู้นำชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างต้นแบบการจัดการเศษวัสดุเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ
นายภาคภูมิ ดาราพงษ์ นักวิชาการส่งเสริมและพัฒนา จากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง แนะนำการจัดการเศษวัสดุเกษตรอย่างง่าย ด้วยการนำเศษซังข้าวโพดและฟางข้าวมาผลิตเป็นปุ๋ยหมักในตะแกรงสานไม้ไผ่ โดยผสมกับมูลสัตว์ (ขี้วัว) ในอัตราส่วน 1:3 หมักทิ้งไว้ 45-60 วัน พร้อมรดน้ำให้มีความชื้นเหมาะสม เพื่อย่อยสลายเป็นปุ๋ยหมักคุณภาพสูง นำไปใช้บำรุงดินและพืชในแปลงเกษตร
วิธีการนี้ไม่เพียงช่วยลดการสะสมเชื้อเพลิงที่เป็นต้นตอของไฟป่า แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ "Clear Sky for All" ที่มุ่งแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว-เมียนมา โดยกิจกรรม Kick Off เปิดธนาคารปุ๋ยชุมชนบ้านโป่งกลางน้ำ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเกษตรกรรมยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชน ธนาคารปุ๋ยชุมชนบ้านโป่งกลางน้ำ ถือเป็นโครงการริเริ่มที่สำคัญในการรวบรวมเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาหมักเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก่อนจะนำปุ๋ยที่ได้แจกจ่ายกลับไปใช้ในแปลงเกษตรของชุมชน นับเป็นแนวทางปฏิบัติที่สร้างความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจท้องถิ่น
หมู่บ้านโป่งกลางน้ำ ซึ่งประกอบด้วย 11 หย่อมบ้าน ได้รับการยกย่องว่าเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งและสามัคคี โดยผู้นำชุมชนและสมาชิกให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อส่วนรวม พื้นที่ตำบลวาวีซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวางในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย จึงเป็นพื้นที่ต้นแบบในการขยายผลแนวทางลดการเผาและส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนไปยังชุมชนข้างเคียงต่อไป
การเปิดธนาคารปุ๋ยชุมชนที่บ้านโป่งกลางน้ำไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญในการลดปัญหาหมอกควัน แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักและส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน โดยชุมชนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน นับเป็นต้นแบบที่ดีในการขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ ในอนาคต