สวพส. เดินหน้าหลักสูตร “นพส.4” ปั้นนักพัฒนา ร่วมแก้ปัญหาพื้นที่สูง
สวพส. เดินหน้าหลักสูตร “นพส.4” ปั้นนักพัฒนา ร่วมแก้ปัญหาพื้นที่สูงให้ที่ยั่งยืน
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ก้าวสู่การยกระดับการพัฒนาพื้นที่สูงในประเทศไทย ด้วยการจัดอบรมหลักสูตร “นักพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง รุ่นที่ 4 หรือ นพส.4” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 - 11 ธันวาคม 2567 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงป่าแป๋ และโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงห้วยเป้า เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 63 คน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานเกษตรอำเภอและจังหวัด ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (เกษตรที่สูง) สถานีพัฒนาที่ดิน สำนักงานจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ และผู้นำชุมชนจากจังหวัดเชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน และเชียงใหม่
นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) ประธานเปิดการฝึกอบรม ได้บรรยายพิเศษ เรื่อง ปัญหาและความท้าทายของพื้นที่สูง นโยบายรัฐ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก รวมทั้งปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของ สวพส. คือ สนับสนุนงานโครงการหลวงและขยายผลสำเร็จของโครงการหลวงไปยังพื้นที่สูงของประเทศ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนบนพื้นที่สูง การดำเนินงานของสวพส. มีมีผลสัมฤทธิ์ที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ได้รับรางวัลเลิศรัฐของรัฐบาล เช่น การได้รับรางวัลเกียรติยศ “Best of the Best” ในปี พ.ศ. 2567 และแนวปฏิบัติที่ดีในการขับเคลื่อนเพื่อบรรลุ SDGs (SDG Good Practices) ซึ่งพร้อมที่จะถ่ายทอดให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม
การจัดฝึกอบรมครั้งนี้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้รูปแบบการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มวิชา ได้แก่ (1) ปัญหาและความท้าทายของพื้นที่สูงนโยบายของรัฐ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง (2) การเสริมสร้างศักยภาพผู้นำชุมชนในการขับเคลื่อนการพัฒนา การวิเคราะห์และวางแผนการพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูง (3) การประยุกต์ใช้กระบวบการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่สำคัญบนพื้นที่สูงในปัจจุบัน (4) การบริหารจัดการและขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สูงแบบบูรณาการ
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมอบรมยังได้เดินทางไปเรียนรู้ในพื้นที่ตัวอย่างความสำเร็จในการขยายผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานแบบโครงการหลวงที่บ้านปางมะกล้วย โครงการพัฒนาพื้นที่สูงตามแบบโครงการหลวงป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่คนในชุมชนมีการประกอบอาชีพที่สมดุลสามารถอยู่ร่วมกับป่า และสามารถต่อยอดป่าเมี่ยงและป่าชุมชนไปสู่การสร้างรายได้ และการสร้างคาร์บอนเครดิต ด้วยการมีส่วนของคนในชุมชนและหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการกันในพื้นที่ ที่บ้านปางมะกล้วยผู้เข้าร่วมอบรมได้เรียนรู้กระบวนการวิเคราะห์และวางแผนพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงที่แม่นยำ และการมีส่วนร่วมของชุมชน การบูรณาการงานพัฒนาพื้นที่สูงร่วมกับท้องถิ่นและเกษตรกรผู้นำ รวมถึงศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การส่งเสริมอาชีพและการพัฒนาชุมชนที่ทำให้คนในชุมชนอยู่ร่วมกับป่าไม้อย่างยั่งยืนในตำบลป่าแป๋ การส่งเสริมอาชีพที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมในกลุ่มผู้สูงอายุ การสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิตเกษตรด้วยงานวิจัย การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้รอบชุมชน
บ้านห้วยเป้า โครงการพัฒนาพื้นที่สูงตามแบบโครงการหลวงห้วยเป้า อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งชุมชนตัวอย่างที่มีปรับเปลี่ยนระบบการทำเกษตรที่ใช้สารเคมี เป็นระบบเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบโครงการหลวง ปัจจุบันสามารถจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงห้วยเป้า ภายใต้แบรนด์ น้ำ 3 สาย By ห้วยเป้า ผู้เข้าร่วมอบรมได้เรียนรู้รูปแบบการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบบูรณการ การเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำชุมชนและชุมชน ในการขับเคลื่อนการพัฒนา และการสร้างความเข้มแข็งของสังคมและชุมชน และได้ศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้การส่งเสริมอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำ และการขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยองค์ความรู้และงานวิจัยเพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาชุมชนบนพื้นที่สูง
หลักสูตรนักพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง เป็นแหล่งองค์ความรู้ที่สะท้อนความสำเร็จ ที่ สวพส. สร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานร่วมบูรณาการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้งในหลักการและแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแบบโครงการหลวง ผู้ที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร นพส เกิดการพัฒนาทักษะและมีความเข้าใจในกระบวนการพัฒนาชุมชนบนพื้นที่สูงตามหลักการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ซึ่งช่วยให้สามารถวางแผนและมองเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้ ในการกระจายการพัฒนาไปสู่พื้นที่สูงอื่น ๆ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนบนพื้นที่สูงให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือการสร้างประโยชน์สุขให้กับประเทศชาติ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ยั่งยืนในระยะยาว