สร้างการรับรู้เชิงรุก และสร้างเครือข่ายชุมชน ปลอดการเผา

อ่าน: 751 ครั้ง

“สร้างการรับรู้เชิงรุก และสร้างเครือข่ายชุมชน ปลอดการเผาในพื้นที่เสี่ยง”

          วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เข้าร่วม“โครงการสร้างการรับรู้เชิงรุก และสร้างเครือข่ายชุมชนปลอดการเผา ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเผาไหม้ซ้ำซาก ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน” ณ กรีนเลค รีสอร์ท เชียงใหม่ โดย ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนมีการรับรู้และมีส่วนร่วมในการลดการเผา แก้ไขปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง ส่งผลให้จำนวนจุดความร้อนในพื้นที่นั้นลดลง คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานมากขึ้น รวมทั้งชุมชนต้นแบบปลอดการเผาในพื้นที่ ที่มีจุดความร้อนสูงที่สามารถเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการปัญหา โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อให้ชุมชนอื่นๆ นำไปปรับใช้ และขยายผลแก้ปัญหาต่อไป

          โครงการสร้างการรับรู้เชิงรุกและสร้างเครือข่ายชุมชนปลอดการเผา ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเผาไหม้ซ้ำซากด้วย กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในวงเงิน 3,997,500 บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 16 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2567 คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย คือ พื้นที่ที่เกิดจุดความร้อน (Hotspot) สะสมหนาแน่น 3 ปีย้อนหลัง คือ ปี 2563-2565 โดยพิจารณาปัจจัยเชิงพื้นที่ เพื่อให้ครอบคลุมลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ พื้นที่ชุมชน ในเขตป่า พื้นที่ชุมชนในเขตรอยต่อป่า-เกษตร และชุมชนในพื้นที่เกษตร รวมทั้งความพร้อมของพื้นที่ในการให้ความร่วมมือขับเคลื่อนการดำเนินโครงการฯ

          ภายในงาน สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ “พื้นที่ต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชาบนพื้นที่สูง” โดย นายอานนท์  ยอดญาติไทย นักวิชาการส่งเสริมและพัฒนา สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง นำเสนอรูปแบบการนำองค์ความรู้โครงการหลวงมาขยายผลต่อในพื้นที่สูงอื่นๆ โดยมี สวพส. เป็นหน่วยงานในการขับเคลื่อน ภายใต้กลยุทธ์หยุดไฟป่าและฝุ่นควันบนพื้นที่สูง โดยการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน โดยยกตัวอย่างชุมชนบ้านแม่วาก ต.แม่นาจร อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

          

          โดยโครงการฯ มี 3 กิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้

          กิจกรรมที่ 1 สร้างการรับรู้ผ่านกิจกรรมเคาะประตูบ้าน ดำเนินการโดยกองทัพภาคที่ 3 ผ่านการสื่อสารเชิงรุก การลาดตระเวรป้องปราม กิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ในกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ เช่น กลุ่มเข้าป่าล่าสัตว์ กลุ่มผู้นำชุมชนก ลุ่มประชาชนทั่วไป โดยมีพื้นที่เป้าหมายดำเนินการ 80 ตำบลใน 3 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 50 ตำบล จำนวน 25 ตำบล จ้านวน 5 ตำบล

          กิจกรรมที่ 2 การสร้างเครือข่ายชุมชนปลอดการเผา ดำเนินการโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุม มลพิษท่ี 1 (เชียงใหม่) สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 3 (พิษณุโลก) และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและ ควบคุมมลพิษที่ 4 (นครสวรรค์) มีพื้นที่เป้าหมายดำเนินการ 80 ชุมชน ใน 6 ตำบล 3 จังหวัด ดังนี้ ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่,ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่,ตำบลแม่สลิด อำเภอ บ้านตาก จังหวัดตาก,ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก,ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 10 ชุมชน ,ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 11 ชุมชน จำนวน 17 ชุมชน จำนวน 16 ชุมชน จำนวน 13 ชุมชน จำนวน 13 ชุมชน

          กิจกรรมที่ 3 การสื่อสารให้ความรู้ในวงกว้างภาพรวมทั้งประเทศ ดำเนินการโดยกรมควบคุมมลพิษ ผ่านช่องทางการเผยแพร่ที่สำคัญ คือ Facebook แฟนเพจ “ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ” (ศกพ.)

          กิจกรรมภายในงาน มีการถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนแนวคิด เกี่ยวกับปัญหามลพิษทางอากาศ PM 2.5 จากการเผาในที่โล่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ป่าจากฐานความรู้และนวัตกรรม ในการแก้ไขปัญหาให้ เกิดความยั่งยืน ได้แก่

          ฐานความรู้ที่ 1 เรื่อง “การนำเสนอภาพรวมโครงการสร้างการรับรู้เชิงรุกและสร้างเครือข่ายชุมชน ปลอดการเผาในพื้นที่เสี่ยงต่อการเผาไหม้ซ้ำซาก ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน และแนวทางความสำเร็จ ของชุมชนต้นแบบปลอดการเผา บ้านนาฮ่อง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่” โดย เครือข่ายชุมชน ปลอดการเผา ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) และหน่วยงานร่วมดำเนินโครงการฯ

          ฐานความรู้ที่ 2 เรื่อง “แม่แจ่ม โมเดลพลัส” โดย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ภาคเหนือ)

          ฐานความรู้ที่ 3 เรื่อง “เครือข่ายภาคพลเมือง เพื่อการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ จังหวัดเชียงใหม”โดย สภาลมหายใจภาคเหนือ

          ฐานความรู้ที่ 4 เรื่อง “พื้นที่ต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชาบนพื้นที่สูง” โดย สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)

          ฐานความรู้ที่ 5 เรื่อง “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางภูมิสารสนเทศ เพื่อจัดการฐานความรู้ทางภูมิศาสตร์และแก้ไขปัญหา PM 2.5” โดย ศูนย์ภูมิภาคเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (ภาคเหนือ) ภาควิชาภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

          ฐานความรู้ที่ 6 เรื่อง “Chiang Mai Model : การบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร” โดย ผศ.ประพัฒน์ เชื้อไทย คณะทำงานโครงการ เชียงใหม่โมเดล

          ฐานความรู้ที่ 7 เรื่อง “การจัดการปัญหาในพื้นที่ป่า และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน” โดย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่)

          ฐานความรู้ที่ 8 เรื่อง “โดรนดับไฟป่า” โดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

6 กรกฎาคม 2566

ข่าวสาร / กิจกรรม สวพส. ล่าสุด