งานสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาบนพื้นที่สูงกับนานาชาติ

มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ สวพส. เปิดงานสัมมนา ครั้งยิ่งใหญ่ ประจำปี’65

เพื่อขยายผลองค์ความรู้โครงการหลวงไปสู่นานาประเทศ     

          วันนี้ (18 กรกฎาคม 2565) เวลา 14.50 น. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาบนพื้นที่สูงกับนานาชาติ “International Seminar on Sustainable Highland Development (ISSHD) Responding to Challenges Beyond The New Normal”  ซึ่งมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 ถึง 19 กรกฎาคม 2565 ณ ห้องประชุมศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวงชนกาธิเบศรดำริ และผ่านสื่ออิเล็กโทรนิกส์ 

          การประชุมครั้งนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการเข้าร่วมประชุม CND ครั้งที่ 65 เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนตามแนวทางของมูลนิธิโครงการหลวง หรือ Royal Project Model ซึ่งเป็นรูปแบบการปฏิบัติงานที่ดีในการพัฒนาแบบองค์รวมอย่างครบวงจรได้เผยแพร่ ขยายองค์ความรู้และประสบการณ์ไปสู่ที่อื่นทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาพื้นที่สูงกับผู้เข้าร่วมสัมมนาจากต่างประเทศ อาทิ UNODC จาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อัฟกานิสถาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เปรู เนปาล ราชอาณาจักรภูฏาน ไต้หวัน โดยถ่ายทอดตัวอย่างความสำเร็จจากเกษตรกรในพื้นที่ดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก Mr. Thierry Rostan, Chief, Sustainable Livelihoods Unit, UNODC มาบรรยายในหัวข้อ UNODC alternative development policies to cope with the new normal and the way forward towards the Sustainable Development Goals อีกด้วย

          โครงการหลวงโมเดล เป็นการพัฒนาจากจุดเล็ก ๆ สู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ จากประสบการณ์ทำงานตลอดระยะเวลา   50 ปี ตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแก้ปัญหาความยากจนจากการปลูกพืชเสพติด การทำเกษตรแบบเลื่อนลอย และการทำลายป่าต้นน้ำลำธาร จนมาถึงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา และต่อยอด โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการดำเนินงานอย่างเข้าใจ เข้าถึง ทำให้บรรลุผลสำเร็จสูงสุดในการพัฒนาพื้นที่สูงสู่ความยั่งยืน ครอบคลุมในทุกมิติ จากพื้นที่พัฒนาโครงการหลวง 39 แห่ง ไปสู่โครงการขยายผลแบบโครงการหลวง 44 แห่ง และต่อยอดในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ แนวทางของโครงการหลวงยังสนับสนุนตามเป้าหมาย BCG Model ของประเทศไทย และการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ของสหประชาชาติ

          การสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครั้งนี้ ได้มีตัวแทนของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ อ.แม่แจ่ม และ ชุมชนเกษตรอินทรีย์ บ้านเมืองอาง ของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ อ.จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มาเล่าประสบการณ์ของการพลิกฟื้นพื้นที่สูงจากระบบเกษตรที่ทำลายสิ่งแวดล้อม มาสู่ระบบเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนแปลงความยากจนจากอาชีพปลูกฝิ่น ทำไร่หมุนเวียน มาเป็นการปลูกพืชเขตหนาวที่สร้างอาชีพบนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างความมั่นคงและเป็นแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับ BCG Model ของประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นการพัฒนาที่ครบวงจรนำสู่ความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ นำมาสู่ชุมชนอยู่ดีกินดี อย่างพอดี และพอเพียง

  นอกจากนี้ โครงการหลวงยังมุ่งความสำคัญในมิติสิ่งแวดล้อม โดยที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ต้องพึ่งพิงทรัพยากรธรรมชาติ การใช้องค์ความรู้และหลักวิชาการที่เหมาะสม การสร้างจิตสำนึก และการส่งเสริมความเข้มแข็งของคนในชุมชน จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่นำไปสู่ความยั่งยืน โครงการหลวงตั้งเป้าหมายการพัฒนาชุมชนคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ใกล้ตัว คือ การเกษตรปลอดภัย ก้าวสู่การสร้างจิตสำนึกของคนในชุมชน และส่งเสริมสู่ชุมชนคาร์บอนต่ำ เพื่อให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ ด้วยความมุ่งหมายเพื่อเพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเหมาะสม สมดุล โดยมีต้นแบบป่ากักเก็บคาร์บอนอย่างยั่งยืนที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

          การสัมมนานานาชาติในครั้งนี้ จะมีต่อเนื่องเป็นวันที่สองในวันพรุ่งนี้ โดยเป็นเวทีการอภิปรายของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ซึ่งเป็นองค์กรที่นำรูปแบบโครงการหลวงโมเดลไปขยายผลในพื้นที่สูงอื่นของประเทศ

กิจกรรม สวพส. เพิ่มเติม